ดร.นิเวศน์ ชี้ ‘วายุภักษ์’ สร้างปาฏิหาริย์ดันหุ้นพุ่งแรง ย้ำอย่าตื่นเต้นเกิน-เทรนด์ต่างชาติยังขายต่อ


ดร.นิเวศน์ ชี้ ‘วายุภักษ์’ สร้างปาฏิหาริย์ดันหุ้นพุ่งแรง ย้ำอย่าตื่นเต้นเกิน-เทรนด์ต่างชาติยังขายต่อ

นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) หรือสายวีไอ เปิดเผยว่า การมีกองทุนวายุภักษ์ ที่จะเปิดให้ประชาชนจองซื้อได้ในวันที่ 16-20 กันยายนนี้ ประเมินว่าน่าจะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย และสามารถดันดัชนีได้ดี เพราะขณะนี้มีความสนใจของนักลงทุนและประชาชนในการเข้าซื้อกองทุนจำนวนมาก โดยวงเงินที่จะเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเพิ่มกว่า 1.5 แสนล้านบาท เม็ดเงินนี้ต้องมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยบ้างแล้ว หลังจากที่ผ่านมาเม็ดเงินหายไป โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิกว่า 109,252.32 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน อย่างน้อยเราก็สามารถลดผลกระทบจากเม็ดเงินขายสุทธิของต่างชาติได้บ้าง สร้างจิตวิทยาและบรรยากาศที่ดีให้นักลงทุนไทยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มเติม บังเอิญที่ช่วงนี้เป็นจังหวะที่เรื่องดีๆ หลายเรื่องมาบรรจบกันพอดี จึงสร้างปาฏิหาริย์ให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นกันเป็นแถวได้

นายนิเวศน์ กล่าวว่า กรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองว่าจะพาดัชนีหุ้นไทยวิ่งไปถึง 1,800 จุดได้ คิดว่าคงเป็นระดับที่ไกลเกินไป ตอนนี้เริ่มมีความเชื่อมั่นสูงมาก ทุกคนมองโลกในแง่ดีมาก เป็นจุดที่ต้องระมัดระวัง เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้หวังอะไรมากนัก มองว่าหากหุ้นไทยปรับขึ้นไปบวกได้ 10% เทียบกับต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ประมาณ 1,415 จุด เท่ากับระดับปัจจุบัน หากเพิ่มอีก 10% ก็บวกประมาณอีก 100 กว่าจุด

”ความรู้สึกของนักลงทุน แม้แต่กลุ่มที่เคยเทขายมากๆ นาทีนี้น่าจะกลับมาเข้าซื้อสะสมอีกครั้งได้ ทำให้เกิดแรงซื้อเพิ่มเป็นทวีคูณขึ้น จึงเกิดปรากฎการณ์ที่หุ้นไทยปรับตัวขึ้นเป็น 10% ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน แต่ก็ต้องจับตามองในระยะถัดไปว่าผลจากบรรยากาศที่ดีเหล่านี้ จะสนับสนุนให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ยาวมากเท่าใด รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลกระทบด้วย ซึ่งนักลงทุนต้องวิเคราะห์ต่อไปว่าจะเป็นไปในทิศทางใด“ นายนิเวศน์ กล่าว

นายนิเวศน์ กล่าวว่า แนวโน้มการกลับมาของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) จะกลับเข้ามาหรือไม่ในช่วงที่มีเม็ดเงินทุนจากนักลงทุนไทยเข้ามาส่งเสริมดัชนีหุ้นมากขึ้น มองว่านักลงทุนต่างชาติคงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก การงทุนก็คงเป็นไปตามนักลงทุนไทยที่มีความมั่นใจเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากขึ้น แต่ต่างชาติอาจขายสุทธิต่อก็ได้ เพราะหุ้นขึ้นก็อาจเป็นโอกาสในการขายของที่ถือไว้ออก เพื่อลดขนาดพอร์ตการถือครองลง เพราะนักลงทุนต่างชาติที่เรามองไว้ว่ามีการซื้อขายในหุ้นไทย แต่อาจเป็นเพียงเอ็นวีดีอาร์ หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทยของนักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาถือหุ้นในประเทศไทยได้สะดวกขึ้น แต่นักลงทุนไทยก็สามารถถือครองเอ็นวีดีอาร์ได้ด้วยเช่นกัน จึงอาจแยกการลงทุนผ่านเอ็นวีดีอาร์ได้ยาก ว่าจะเป็นต่างชาติหรือคนไทย อาจไม่ใช่นักลงทุนต่างชาติ 100% ก็ได้

นายนิเวศน์ กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยรอบนี้ จะดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามามากกว่าเดิม อันนี้อย่าเพิ่งไปหวังมากนัก เพราะทิศทางในระยะยาวยังคงเป็นการขายหุ้นไทยอยู่ จากที่ขายมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ในรอบนี้อาจเป็นการชะลอการลงทุนเพื่อดูการปรับขึ้นก่อน ในจุดที่เหมาะสมและพอใจแล้วอาจขายออกมาเพื่อทำกำไรเพิ่มเติมให้มากขึ้นก็ได้ ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีการปฏิรูปประเทศให้มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว นักลงทุนต่างชาติก็ยังคงไม่เปลี่ยนมุมมองกับการลงทุนในไทย จึงอย่าเพิ่งตื่นเต้นเกินไป ขณะนี้มองว่ายังไม่เพียงพอที่จะบอกว่านักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

matichon





Source link

Post a Comment

أحدث أقدم